วันพฤหัสบดี, มีนาคม 28, 2567

ชุมชนออนไลน์ต้อนรับ ‘จักรภพ’ เนืองแน่น แต่ว่าบางส่วนกังวล ‘คดีอื่น’ ที่หลบมุมอยู่ โดยเฉพาะ ม.๑๑๒

จักรภพ ถึงไทย กองปราบฯ รอรับพรึ่บ “โชคชัย อ่างแก้ว ทนายความ พร้อมน้องสาวจักรภพ ขอเข้าพบ...ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ย้ำกลับไทยช่วงนี้ เพราะรัฐบาลเป็นประชาธิปไตย และอยากกลับมารับใช้ชาติ ยืนยันไม่เกี่ยว #ทักษิณชินวัตร

เบื้องต้น Sa-nguan Khumrungroj @ZhentingLiu เล่าว่าทนายโชคชัยคนนี้เคยเป็น “ทนายความคดีสลายการชุมนุมปี ๕๓” และ ที่กองบังคับการกองปราบฯ พหลโยธิน มีคนไปต้อนรับหนาแน่น ทั้ง เลขาส่วนตัว ป๊อบ-สุไพรพล ช่วยชู และณัฐนันท์​ เพ็ญแข น้องสาวจักรภพ

ว้อยซ์ทีวีรายงานว่า “อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลของ สมัคร สุนทรเวช ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธสงคราม และอังยี่ ก่อนลี้ภัยทางการเมืองเมื่อปี ๒๕๕๒ ได้เดินทางถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าวันนี้” (๒๘ มีนา)

ด้านสื่อสังคมออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์กันแล้ว ว่าจักรภพน่าจะมีคดีอื่นหลบมุมอยู่ ถ้าเป็นยุคที่ยังไม่มีการกระโดดข้ามรั้วหลักการทางประชาธิปไตย ตั้งข้อสงสัยว่า สมยศ พฤกษาเกษมสุข ติดคุกเพราะตีพิมพ์บทความของจักรภพ ล้มเจ้า

นอกจากนั้นก่อนหน้าเจอคดี อั้งยี่เล็กน้อย จักรภพ เพ็ญแข เคยไปปราศรัยต่อคนไทยในนครลอส แองเจลีส ซึ่งถูกเพ่งเล็งจากทางการไทยว่าหมิ่นเหม่ต่อข้อหาละเมิด กม.อาญา มาตรา ๑๑๒

‘อย่างไรก็ดี การกลับประเทศไทยของจักรภพ ภายหลังลี้ภัยอยู่ต่างประเทศถึง ๑๕ ปี ได้รับกำลังใจอย่างหลากหลายจากบรรดา คนเสื้อแดง ไม่ว่าจะสังกัดใด เฉดไหน ในปัจจุบันนี้ ต่างมั่นใจว่าเขาจะได้ประกันปล่อยตัวชั่วคราวอย่างแน่นอน

(https://www.voicetv.co.th/read/vo1Qb0139#google_vignette) 

ศาลอาญาฯ รับฟ้องสมาชิกก้าวไกล กกต.ลำเอียง ผิด ม.๑๕๗ ทำเมินเฉย ไม่ยื่นศาล รธน.วินิจฉัย ศักดิ์สยาม ภูมิใจไทย ผิดแล้ว ไม่ยื่นยุบพรรค

คดีนี้น่าติดตามอย่างจับจ้อง สมาชิกพรรคก้าวไกลฟ้อง กกต.ทั้งชุด พร้อมเลขาฯ ไม่เพียงสองมาตรฐานน่าเกลียด แต่ผิดอาญา ม.๑๕๗ บวกอีกหลายมาตรา เรื่องที่รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินผิด สั่งพ้นจากตำแหน่งหน้าที่

ไฉนพวกทั่นทั้ง ๖ จึงเมินเฉยไม่ส่งสำนวนให้ศาล รธน.วินิจฉัยยุบพรรค เหมือนที่ทำกับพรรคก้าวไกล คดี ศักดิ์สยาม ชิดชอบ แอบถือหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัด โดยให้นอมินีประกอบการแทน เป็นความผิดตามมาตรา ๑๗๐ แห่งรัฐธรรมนูญ

“การกระทำของจำเลยทั้งหมดจึงมีเจตนาร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ดำเนินการกับพรรคภูมิใจไทยตามหน้าที่และอำนาจของตน พฤติการณ์ดังกล่าวมีลักษณะเป็นการประวิงคดีให้เนิ่นช้าเกินสมควร ไม่ได้ดำเนินการใดๆ”

นั่นเป็นกรรมแรก ยังมีกรรมที่สองผู้ร้อง (เรือเอก ย.) อ้างถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพรรคก้าวไกลเสนอแก้ไขกฎหมายอาญา ม.๑๑๒ เป็นความผิดฐานล้มล้างการปกครองฯ กรรมการเลือกตั้งทั้ง ๖ ลุกลี้ลุกลน “เร่งรีบขาดความรอบคอบและเป็นพิรุธ”

จัดการยื่นศาล รธน.ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหาร โดยมอบหมายจำเลยที่ ๗ (เลขาฯ) ไปยื่นโดยไว ด้วยเหตุที่ “จนถึงวันที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำสั่งหรือมติรับคำร้องของจำเลยไว้พิจารณาแต่อย่างใด”

ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับคดีไว้เพื่อตรวจคำฟ้อง และให้นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ ๙ เมษายน เวลา ๐๙.๓๐ น.

(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/TzHcGSK7b6HmPo4SWl) 

บันทึกช่วยจำสำหรับ ตลาการศาลอาญา

Yingcheep Atchanont   

ตะวัน ไม่ได้อยู่ในคุกเพราะ #112 แต่เป็น #116

ตะวัน ไม่ได้ด่าในหลวง ไม่ได้ขวางขบวนพระเทพฯ แต่เขาเถียงกับตำรวจ

ตะวัน ไม่ได้อดอาหารเพื่อเรียกร้องความสงสารจากศัตรู แต่เรียกร้องจากเพื่อนๆ กันเอง

ตะวัน ไม่ได้ดื้อรั้นให้คนรอบตัวต้องเอาใจ แต่เขาพยายามขัดขืนสิ่งที่ไม่ถูกต้องด้วยเครื่องมือเท่าที่มี คือ ร่างกายตัวเอง

ตะวัน ไม่ได้ถูกใครจูงจมูกให้ออกไปตายแทน แต่มีคนห้ามมากมายแล้วเขาเลือกทางชีวิตของเขาเอง

ตะวัน ไม่ได้สุขสบาย เป็นฮีโร่ที่โด่งดัง แต่เขากำลังเจ็บปวดทรมาน เขาสูญเสียอนาคตและสิ่งต่างๆ ไปหมดแล้ว

แต่ยังไม่เคยสูญเสียความเชื่อของตัวเอง

และยังไม่สูญเสียลมหายใจ ในคืนนี้ 

TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน @TLHR2014

วันนี้ (28 มี.ค.) พ่อและทนายความยื่นประกันตัว #ตะวันแฟรงค์ ต่อศาลอาญาอีกครั้งในคดี ม.116 กรณีถูกกล่าวหาว่าบีบแตรใส่ขบวนเสด็จของพระเทพฯ หลังอาการของตะวันทรุดหนักลงจนอาจเสี่ยงอันตรายต่อชีวิต

ปัจจุบัน "ตะวัน" และ "แฟรงค์" อยู่ระหว่างการถูกฝากขังผัดที่ 4 ซึ่งศาลอนุญาตให้ฝากขังได้อีก 12 วัน โดยวันนี้เป็นการถูกคุมขังเข้าสู่วันที่ 44 แล้ว ขณะสภาพร่างกายทั้งสองน่าเป็นกังวลมากจากการอดอาหารและจำกัดน้ำประท้วง

โดยปัจจุบันตะวันอยู่ที่ รพ.มธ. ส่วนแฟรงค์อยู่ที่ รพ.ราชทัณฑ์ พวกเขาอดอาหารประท้วงมาตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกที่ถูกคุมขัง

https://twitter.com/TLHR2014/status/1773188476164579754



เปิดตัว 29 ว่าที่ผู้สมัคร สว. ฟังเหตุผล “คนธรรมดา” อยากเข้าไปในวุฒิสภาเพื่ออะไร



เปิดตัว 29 ว่าที่ผู้สมัคร สว. ฟังเหตุผล “คนธรรมดา” อยากเข้าไปในวุฒิสภาเพื่ออะไร

หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ
ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย
27 มีนาคม 2024

บุคคลจากหลากหลายแวดวงเปิดตัวพร้อมลงสมัครรับเลือกเป็น สว. โดยหนึ่งในเป้าหมายที่ทำให้พวกเขาอยากเข้าไปทำหน้าที่ในวุฒิสภาคือ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งถือเป็น “จุดยืนของแต่ละคนที่อาจเห็นพ้องต้องกันมากที่สุด”

ผู้ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 29 คน เข้าร่วมการเสวนาโต๊ะกลมที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 2516 ช่วงเช้าวันนี้ (27 มี.ค.) ก่อนประกาศเจตนารมณ์พร้อมลงชิงเก้าอี้ สว. ซึ่งมีทั้งนักวิชาการ อดีตข้าราชการ อดีตผู้พิพากษา ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม หมอ ศิลปิน นักเขียน และนักข่าว

หนึ่งในนั้นคือ พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ผู้ประกาศตัวเป็นคนแรก ๆ ว่าขอลงสมัคร สว. เพื่อ “เข้าไปแก้และรื้อรัฐธรรมนูญ”

“ผมเห็นว่าระบบกฎหมายในประเทศไทยวันนี้ ผิดเพี้ยนไปจากหลักการประชาธิปไตย ถูกบิดผันไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง เอื้อต่อผู้มีอำนาจ จนประชาชนโดยทั่วไปเสื่อมศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 และศาลรัฐธรรมนูญกับองค์กรอิสระที่ไม่ได้ทำงานเพื่อตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร แต่กลับกลายเป็นกลไกเครื่องมือหนึ่งของฝ่ายบริหาร” พนัส อ่านคำแถลงจุดยืนของเขาในระหว่างร่วมเปิดรายชื่อผู้ประสงค์ลงสมัคร สว. 42 คน ทว่ามีเพียง 29 คนที่มาเปิดหน้าต่อสื่อมวลชน โดยมีเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญเป็นผู้ประสานงาน

นักกฎหมายวัย 82 ปี ซึ่งผ่านการทำหน้าที่ สว. ปี 2543 และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ฉบับปี 2540 ยืนยันว่า การลงสมัครเป็น สว. ชุดใหม่ มิได้เป็นไปเพื่อแสวงหาอำนาจ แต่มุ่งหมายที่จะเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อผลักดันและยืนยันหลักการประชาธิปไตย

พนัส ตระหนักดีว่า ระบบการคัดเลือก สว. ในปัจจุบัน ยังไม่ยึดโยงกับประชาชนเพียงพอ ไม่สามารถทำให้ได้มาซึ่งตัวแทนของประชาชนที่หลากหลายครบถ้วน แต่ “การลงสมัครครั้งนี้เป็นหนทางเดียวเท่าที่มีในปัจจุบัน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตามหลักการประชาธิปไตย”


ชาญวิทย์ เกษตรศิริ (ขวา) มอบดอกไม้ให้กำลังใจ พนัส ทัศนียานนท์ ในโอกาสประกาศตัวลงสมัคร สว.

จุดต่าง สว. 2 ชุด จาก “ผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ” VS “ผู้เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ”

นอกจาก พนัส ยังมีผู้ประกาศตัวลงสมัคร สว. อีกหลายรายประกาศจุดยืนสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560

ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ หรือ “ปิงปอง” โปรดิวเซอร์เพลง และอดีตศิลปินวง “ละมุนแบนด์” ซึ่งปัจจุบันเปิดช่องยูทิวบ์ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับดนตรี กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไทยมีกติกาที่ค่อนข้างประหลาด อาจไม่จำเป็นต้องมีความรู้อะไรมาก เราก็รู้สึกได้ว่ามันประหลาด ณ วันนี้ สว. ชุดเก่ากำลังจะหมดวาระลง ตอนนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่ภาคประชาชนจะเข้ามาแก้ไขที่ต้นเหตุได้

“เราเข้ามาสมัคร สว. ไม่ได้เพื่อมาเป็น สว. ไม่ได้มาเพื่อตำแหน่งทางการเมือง แต่ต้องการเข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงกติกาของประเทศนี้ให้มีความเป็นสากล และถูกต้องในสายตาของประชาชนมากขึ้น” ศิริศักดิ์ กล่าว

เช่นเดียวกับ จีรนุช เปรมชัยพร ผู้ก่อตั้งสำนักข่าวประชาไท และผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ ที่บอกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่เธอ “มุ่งมั่น” และเป็น “จุดสำคัญแน่ ๆ” ในการเปลี่ยนไปสู่ประชาธิปไตย และเหมือนจะเป็นจุดยืนของแต่ละคนที่อาจเห็นพ้องต้องกันมากที่สุด แต่ไม่ใช่จุดยืนร่วมกันของผู้ประสงค์จะลงสมัคร สว. ที่มาเปิดตัวในวันนี้

จีรนุช ซึ่งตั้งใจลงสมัครในกลุ่มสื่อสารมวลชน กล่าวว่า ถ้าดูในรอบหลายปีที่ผ่านมา เวลาไปพูดในสภา สว. ที่บอกว่าจะไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญเลย ไม่เคยได้ยิน แต่เขาบอกว่าจะแก้ได้ก็ต่อเมื่อมีเงื่อนไข.... จึงเชื่อว่าเวทีของรัฐสภาควรเป็นเวทีที่พูดคุยกันได้และหาข้อสรุปเพื่อนำประเทศไปในทิศทางที่ต้องการได้มากที่สุด

“ยินดีต้อนรับความหลากหลาย สายอนุรักษนิยมก็ยังเป็นความหลากหลายหนึ่งในสังคมไทย” จีรนุช กล่าว

ด้าน หทัยรัตน์ พหลทัพ บรรณาธิการบริหาร (บก.บห.) เดอะอีสานเรคคอร์ด ผู้เสนอตัวลงสมัคร สว. กลุ่มสื่อสารมวลชนเช่นกัน เห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็น “รัฐธรรมนูญที่พิกลพิการ” จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องไปแก้ไข อาจไม่เรียกว่ารื้อ แต่ต้องทำให้มันดีขึ้นเพื่อให้เป็นประชาธิปไตย


มีชัย ฤชุพันธุ์​ และรัฐธรรมนูญที่เขายกร่าง

รัฐธรรมนูญ 2560 จัดทำขึ้นในบรรยากาศหลังรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 โดยมีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มี มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน เป็นผู้ยกร่าง ก่อนนำไปให้ประชาชนออกเสียงประชามติ 7 ส.ค. 2559 ทั้งนี้ในช่วงจัดทำรัฐธรรมนูญ เลขาธิการ คสช. ได้ส่งหนังสือถึงประธาน กรธ. ขอให้ปรับปรุงเนื้อหารัฐธรรมนูญจากร่างแรกที่เปิดเผยต่อสาธารณะ หนึ่งในประเด็นที่ คมช. ให้ปรับแก้คือ ให้มี สว. 250 คน, มาจากการคัดสรรหรือแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ, มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี, ให้ปลัดกระทรวงกลาโหมและ ผบ.เหล่าทัพ 6 คน เป็น สว. โดยตำแหน่ง พร้อมระบุชัดเจนว่า สว. “มีหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ”

กรธ. เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “รายการคุณขอมา” และเป็นที่มาของการเขียน “บทเฉพาะกาล” กำหนดให้มี สว. 200 คนซึ่งมีที่มาตามความประสงค์ของ คสช. แต่ขอทดสอบระบบ สว. กลุ่มอาชีพที่บัญญัติไว้ใน “บทหลัก” 50 คน ทำให้ สว.ชุดเฉพาะกาลกลายเป็น “สว. ลูกผสม”

ในขณะที่ สว. ชุดปัจจุบัน 250 คน ถือเอาภารกิจ “พิทักษ์รัฐธรรมนูญ” เป็นหน้าที่ แต่ว่าที่ผู้สมัคร สว. ชุดใหม่หลายคนในกลุ่มนี้ ประกาศว่าขอเข้าสภาเพื่อไป “รื้อ-แก้ไขรัฐธรรมนูญ” จึงน่าสนใจว่าพวกเขาประเมินแรงต้านของชนชั้นนำฝ่ายอนุรักษนิยมอย่างไร

หทัยรัตน์ กล่าวว่า เธอโดนฝ่ายความมั่นคงติดตามตัวในพื้นที่ภาคอีสานมาตลอด โดนตามจนชิน ตอนนี้ก็กลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว “ถามว่าเรากลัวไหมว่าเขาจะสกัดกั้นเรา ก็ต้องบอกว่ากลัว แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด เราต้องการเข้าไปทำหน้าที่ในสภาเพื่อตรวจสอบถ่วงดุล แต่ถ้าที่สุดแล้วไม่ได้เข้าไป เราก็จะเอาข้อมูลที่ได้จากการสังเกตการณ์กระบวนการเลือก สว. มาเขียนหนังสือเล่มใหม่ เพราะกระบวนการมันซับซ้อนมาก ตอนนี้เรารู้แล้วว่ามีความเคลื่อนไหวในการขายตัว อย่างน้อยก็เขียนบทความได้ชิ้นหนึ่ง”

ขณะนี้ บก.บห. เดอะอีสานเรคคอร์ด อยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะลงสมัครที่อำเภอใด ซึ่งเธอเลือกสมัครได้ทั้ง อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู, อ.เมือง จ.ขอนแก่น, อ.เมือง จ.อุดรธานี และเขตหลักสี่ กทม.

เธอระบุว่า ได้ยินข่าวว่าบางพื้นที่เริ่มมีความเคลื่อนไหวในกระบวนการ “จัดตั้ง” และเตรียมการ “บล็อกโหวต” แล้ว ซึ่งในสายสื่อมวลชน มีฝ่ายการเมืองไปหาบุคลากรจากเครือข่ายวิทยุชุมชนซึ่งมีทุกจังหวัด ส่วนกลุ่มสตรี และกลุ่มการสาธารณสุข ก็ดำเนินการผ่านกลไกอาสาสมัครที่ค่อนข้างเข้มแข็งและลงลึกทั้งระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังได้ยินข่าวด้วยว่า มีผู้ใหญ่ในแวดวงการศึกษาลงพื้นที่เพื่อขอให้อดีตข้าราชการครูลงสมัครแล้วไปโหวตเลือกตัวเอง

ขณะที่ พนัส ประเมินแรงต้านของชนชั้นนำเก่าว่า ขึ้นอยู่กับการคัดเลือก ถ้าแรงต้านจากภาคประชาชนมีมาก ผลที่ออกมา เขาก็ไม่ได้เป็นเสียงข้างมากใน สว. แต่ถามว่าเขาจะใช้วิธีใด อันนี้ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ จึงเรียกร้องเชิญชวนให้คนที่รักประชาธิปไตยออกมาลงสมัคร สว. กันให้เยอะ ๆ ไม่เช่นนั้นจะต้านทานเขาไม่ได้แน่นอน


หทัยรัตน์ พหลทัพ บอกว่าใช้เวลาตัดสินใจเป็นเดือนว่าจะมาเปิดตัวก่อนหรือไม่ เนื่องจากกังวลเรื่องการถูกสกัดกั้น

มนุษย์ประวัติศาสตร์


กระบวนการเลือก สว. ชุดใหม่ 200 คน จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค. นี้ แทน สว. ชุดเฉพาะกาล 250 คนที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช.

รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้ สว. ต้องผ่านระบบ “เลือกกันเอง” ของแต่ละกลุ่มอาชีพรวม 20 กลุ่ม และ “เลือกไขว้” กลุ่มอาชีพที่จับสลากแล้วอยู่ในสายเดียวกัน โดยคนที่จะหลุดเข้าสภาสูงได้ต้องเป็นผู้ถูกเลือกถึง 3 ระดับจากอำเภอ จังหวัด และประเทศ

ด้วยกระบวนการที่แม้แต่ผู้จัดการเลือกอย่างเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ยังยอมรับว่า “ซับซ้อนที่สุดในโลก” และถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกของโลก ทำให้ผู้สมัคร สว. รุ่นแรกถูกมองว่าเป็น “มนุษย์ประวัติศาสตร์”

สำนักงาน กกต. เคยทดสอบระบบนี้มาแล้วในการเลือก สว. ชุดเฉพาะกาลเมื่อปี 2561 โดยจัดให้มีการเลือก สว. กลุ่มอาชีพ 10 กลุ่ม เพื่อเฟ้นหา 200 คน ก่อนส่งรายชื่อให้ คสช. เคาะเหลือ 50 คนสุดท้าย เข้าไปทำหน้าที่ในสภาสูงร่วมกับ สว. อีก 194 คนที่มาจากการเลือกของคณะกรรมการสรรหาซึ่งแต่งตั้งโดย คสช. และอีก 6 คนเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ (ผบ.เหล่าทัพ) ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็น สว. โดยตำแหน่ง

ภารกิจแรกของ สว. ชุดดังกล่าวคือ ร่วมลงมติเห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นนายกฯ สมัยที่ 2 ภายหลังการเลือกตั้งปี 2562 ส่วนภารกิจล่าสุดของ สว. ชุดนี้คือการเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน โดยไม่ลงมติ ซึ่งวุฒิสภาชุดนี้ไม่เคยยื่นญัตติเช่นนี้เลยตลอดวาระของรัฐบาลประยุทธ์



ศ.ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อดีตคณบดีคณะศิลปศาสตร์ มธ. และอดีตรองอธิการบดี มธ. กล่าวกับบีบีซีไทยว่า ไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาสู่กระบวนการนี้ได้ เพราะถ้าจะทำงานการเมืองต้องหาเสียง แต่พอดูรายละเอียดการสมัครเป็น สว. เขาห้ามหาเสียงเลย ก็รู้สึกว่ามันประหลาด แต่เมื่อลองมองในมุมกลับว่า ถ้าอย่างนั้นเราต้องใช้ชื่อเสียงของแต่ละคนที่มี เราเป็นครูบาอาจารย์ก็มีลูกศิษย์ลูกหา เคยให้สัมภาษณ์สื่อบ้าง คนก็คงพอรู้จัก และมีจุดยืนทางการเมืองในระดับหนึ่ง

“ถ้าพอช่วยตรงนี้ได้ ก็คงเป็นครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ คงไม่มีอีกแล้ว จากนี้เขาคงต้องเปลี่ยนระบบใหม่เพราะมันไม่เวิร์กหรอก ส่วนเราก็น่าจะเป็นมนุษย์ประวัติศาสตร์ เพราะคงไม่มีที่ไหนในโลกที่ทำแบบนี้” ศ.ดร.ธเนศ กล่าว

อาจารย์ธเนศ เป็นอีกคนที่เปิดหน้า-เปิดตัวลงสมัคร สว. เพราะต้องการเข้าไปเป็นกลไกเล็ก ๆ ในการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เขาหวังว่าจะมีส่วนช่วยเคลื่อน “อิฐก้อนแรกที่ขวางกั้นพัฒนาการประชาธิปไตยของไทย” ออกไปได้

เมื่อมองผ่านสายตาของนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ศ.ดร.ธเนศ เห็นว่า ประวัติศาสตร์การเมืองไทยหลังรัฐประหาร 2557 ที่ฝ่ายอำนาจเก่าใช้กลไกตามรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระในการรักษาอำนาจและระเบียบการปกครอง พยายามต่อต้านการเปลี่ยนแปลง โดยยอมรับการเปลี่ยนแปลงแบบจารีตเท่านั้น แต่ต่อต้านเปลี่ยนแปลงแบบก้าวหน้า เป็นประวัติศาสตร์ที่สมควรได้รับการแก้ไขมากที่สุด

เขากล่าวว่า ชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2566 ของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) จำนวน 14 ล้านเสียง แสดงให้เห็นว่าคนจำนวนมากในประเทศต้องการความเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง ท่ามกลางความไม่น่าเป็นไปได้ มันมีประสบการณ์ที่เป็นจริง เพิ่งเกิดขึ้น และพิสูจน์ว่าพรรคและการเมืองแบบอุดมการณ์ใหม่มันมีที่ทาง ส่วนตัวจึงคิดว่าต้องมีคนมาเป็นโหวตเตอร์ให้ สว. แล้วช่วยกันผลักดันความเปลี่ยนแปลงนี้

“ผมคิดว่าถ้าเราลงสมัคร น่าจะมีคนจำนวนมากเห็นด้วย ก็เลยหวังว่าคนพวกนี้ต้องกระจายไปทั่วประเทศ จะเลือกในกลุ่ม ไขว้กลุ่มอย่างไร ยังไงต้องเจอกันบ้าง หากทำได้ก็จะเกิดสิ่งน่าอัศจรรย์ในกระบวนการคัดสรร สว. ที่เขาคิดว่าวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ไม่ประสบความวามสำเร็จ ไม่เป็นตามนั้น คนคิดต้องช็อกแน่” ศ.ดร.ธเนศ วัย 75 ปี กล่าว


ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ ระบุว่า ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะลงสมัคร สว. แต่ที่เข้ามาเพราะต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเปลี่ยนแปลง

ด้วยระบบสุดซับซ้อน จึงไม่มีอะไรการันตีว่าคนมีชื่อเสียงจะไม่นำต้นทุนที่สั่งสมมาทั้งชีวิตมาทิ้งในสนามนี้ จากตั้งใจเข้าไปเป็น สว. เพื่อการเปลี่ยนแปลง บางคนอาจกลายเป็น สต. (สอบตก) หากไม่ผ่านค่ายกลทางกฎหมาย-การเมือง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจารย์ธเนศ ผู้เกษียณอายุราชการแล้ว บอกว่า ไม่รู้สึกกังวลเรื่องการต้องเสียโปร์ไฟล์ เพราะคนทั่วไปคงจำตัวเขาไม่ได้ได้อยู่แล้ว ส่วนคนที่รู้จักในฐานะอาจารย์และนักประวัติศาสตร์ เชื่อว่าจะเข้าใจว่ามันมีความจำเป็นต้องทำ เพราะส่วนตัวไม่เคยมีความคิดอยากเป็นนักการเมือง หรือเป็น สว. ไม่มีความคิดกระเดียดไปทางนั้นเลย แม้ตอนเป็นผู้บริหารคณะและมหาวิทยาลัยก็ไม่เคยสะสมหรือสร้างเครือข่ายใด ๆ จึงคิดว่าไม่ว่าสอบได้หรือสอบตก ก็คงจะรอดพ้นจากคำครหาต่าง ๆ

ด้าน พนัส วัย 82 ปี หัวเราะร่วนแทนคำตอบเมื่อถูกถามถึงการได้เป็น “มนุษย์ประวัติศาสตร์” จากการลงสมัคร สว. ด้วยระบบที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกในโลก แต่เขายอมรับว่า “กังวลแน่นอน” กับกระบวนการที่อาจเกิดขึ้น

“แต่ถ้าสุดท้ายถ้าเขามาบล็อกผมได้ เราก็ต้องยอมรับว่าไม่ได้เป็นความผิดของเรา ไม่ได้ทำให้ผมเสียชื่อเสียง เรารู้อยู่แล้วว่าระบบมันเป็นอย่างนี้ โอกาสเกิดปัญหาแบบนี้มี ซึ่งตอนนี้ข้อมูลก็เริ่มออกมาแล้ว” พนัส บอกกับบีบีซีไทย

เปิดตัวเพื่อให้เกิดปรากฏการณ์ ไม่ได้จัดตั้งกลุ่ม



สำหรับผู้ประสงค์ลงสมัคร สว. รายอื่น ๆ ที่มาเปิดตัวในวันนี้ อาทิ ศาตราภิชาน แล ดิลกวิทยรัตน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มธ., ศ.ดร.นงเยาว์ เนาวรัตน์ อดีตอาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ ม.เชียงใหม่, นพ.จักรพงษ์ นะมาตร์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล, นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย อดีตรองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.), นคร พจนวรพงษ์ อดีตผู้พิพากษา, อดิศร พร้อมเทพ อดีตอธิบดีกรมประม, สรศักดิ์ สมรไกรสรกิจ อดีตนักการทูต กระทรวงการต่างประเทศ, คอรีเยาะ มานุแช ทนายความสิทธิมนุษยชน, ถนัด ธรรมแก้ว หรือ “ภู กระดาษ” นักเขียน

บรรดาผู้ร่วมเปิดตัวลงสมัคร สว. ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า กิจกรรมในวันนี้เป็นการพบปะและแนะนำตัวซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การจัดตั้งกลุ่มโดยบุคคลหรือกลุ่มองค์กรใด ซึ่งหลายคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่มารวมตัวกันเพราะต้องการ “สร้างปรากฏการณ์” เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนคนธรรมดาที่มีคุณสมบัติตามกฎหมายออกมาสมัครเป็น สว. และเป็นโหวตเตอร์

นอกจากนี้ พนัส ยังเลขาธิการ กกต. ให้ชี้แจงและตอบให้ชัดเจนว่า คำว่า “ห้ามฮั้วกัน” หมายคืออะไร อย่าพูดลอย ๆ ไม่ใช่ให้ทำไปก่อน แล้วมาสอยทีหลัง ซึ่งตามความเข้าใจของนักกฎหมายรายนี้คือมีการขนคนไปลงสมัครในระดับอำเภอ

ก่อนหน้านี้ ประธาน กกต. ระบุว่า การเปิดตัวผู้สมัคร สว. “ทำได้ เพราะเป็นเรื่องปกติหากแสดงความสนใจก็บอกได้ ไม่มีใครห้าม”

https://www.bbc.com/thai/articles/cz7zxyl74k1o

เร่เข้ามา เป็นผู้สมัครลงสู้ศึกสว. ขอให้เปิดตัวกันมาเรื่อยๆ "บ้านเมืองไม่ปกติ เราควรสมัครเข้าไปช่วยกันแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นปกติ"


.....


สงวน คุ้มรุ่งโรจน์
13h
·
#สองสตรีเหล็กลงสู้ศึกสว.
(ซ้าย)"คอรีเยาะ มานุแช"ทนายมุสลิมะฮ์ และนายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) อดีตผู้ต้องหาคดีฝ่าฝืน #พรกฉุกเฉิน จากการร่วมเวทีเสวนา #ราษฎรยกเลิก112
(ขวา)"จิ๋ว"“จีรนุช เปรมชัยพร” ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไท
ทั้งสองเปิดตัว ประกาศความพร้อมสู้ศึกชิงที่นั่งสมาชิกวุฒิสภาของประชาชน เช้านี้ ณ พฝห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว เช้านี้
(ภาพ:สงวน คุ้มรุ่งโรจน์)
.....

พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
8h
·
ถามไถ่กันเข้ามา ก็ยืนยันว่า ตัดสินใจลงสมัครสว.67

เมื่อตอนเกษียณอายุ ตั้งใจทำงานทางความคิดระยะยาว ไม่รับงานสอนพิเศษ เป็นวิทยากรเท่าที่จำเป็น มุ่งแปลงานวิชาการชิ้นสำคัญ แต่เมื่อสถานการณ์มาถึงจุดนี้แล้ว ก็ต้องเลือกเดิน

#สว67 #สมัครสว
......

Nitipong Sumrankong
7h
·
ก่อนหน้านี้มีคนถามทักกัน วันนี้ 27 มีนาคม 2567 ขอประกาศตัวเป็นผู้สมัคร สว. ครับ
.
สิทธิ เสรีภาพ เสมอภาค
.....

Nongyao Nawarat
13h 
·
#เรียนทุกคน
#เราตัดสินใจสมัครสว.
#ขอพลังด้วย
ตามกติกาของกกต. ห้ามบอกว่าจะไปทำอะไร แต่ชี้แจงได้ว่าเคยทำอะไรมาบ้างเพื่อประกอบความเชี่ยวชาญ
.....

iLaw
20h
·
ชวนดูคำตอบเรื่อง #สว67 จากการลองทำโพลบนแอปพลิเคชั่น เอ็กซ์​ (ทวิตเตอร์นั่นแหละ) คนที่ตอบคำถาม "ประมาณครึ่งหนึ่ง" รู้แล้วว่า ที่มาของระบบการคัดเลือกอันแปลกใหม่พิศดารนั้น มาจากไอเดียของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน
กรธ. ชุดนี้แต่งตั้งมาโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามแต่งตั้งโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พวกเขาเป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งวางกรอบกว้างๆ ของระบบการคัดเลือกสว. เอาไว้ โดยยังเขียนมาตรา 267 แบบ "ตีเช็คเปล่า" ให้กรธ. ชุดนี้ชุดเดิม เป็นคนเขียนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งหมดได้เอง ก่อนให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งมาจากการแต่งตั้งของคสช. เป็นผู้ยกมือให้ผ่าน (https://www.ilaw.or.th/articles/1968)
หลังจากได้รัฐธรรมนูญ 2560 แล้ว กรธ. ก็จัดทำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา ประกาศใช้ในเดือนกันยายน 2561 (https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/A/068/1.PDF)
ส่วน #กกต นั้นเป็นเพียงผู้ที่ปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านี้ และกกต. ก็ไปจัดทำระเบียบกำหนดวิธีปฏิบัติเพิ่มเติมตามระบบที่กรธ. เขียนไว้ ส่วนสว. ชุดพิเศษในวันนี้ไม่ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบระบบที่มาของสว. ชุดต่อไปเลย
.....

Charnvit Kasetsiri
17h
·
A new Senate for the Nation and the People of Thailand (the new Siam)
สว.ชุดใหม่ สำหรับชาติและราษฎรไทย
A new Senate for the Nation and the People of Thailand (the new Siam)
สว.ชุดใหม่ สำหรับชาติและราษฎรไทย
"บ้านเมืองไม่ปกติ
เราควรสมัครเข้าไปช่วยกันแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เปนปกติ"
บางทีเราก็จำต้องเล่นในเกม ที่พวกเขากำหนด เราไม่มีทางเลือก แต่ต้องเอาชนะให้ได้ แล้วเปลี่ยนเกม แก้รัฐธรรมนูญฉบับที่ย่ำยีเราอยู่ ครับ
.....
สงวน คุ้มรุ่งโรจน์
10h·

ระบอบเลือกสว.ที่ออกแบบคราวนี้
ดูแล้วใกล้เคียงกับฮ่องกง ซึ่งจีนคอมมิวนิสต์กำกับควบคุม


คนตายกลับบ้านไม่ได้ รำลึกถึง วัฒน์ วรรลยางกูร “เมื่อข้าตาย เพื่อนข้ายังอยู่ ลูกข้ายังสู้ หลานข้ายังฝัน ชีวิตต้องดีกว่า สังคมต้องก้าวหน้า สันติภาพต้องมีมาเป็นจริง, เป็นจริง ใช่เพียงฝัน”

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02caXVwHxr5rbV38y2xdxujJKQytDLM55ktyCARZEU9FQMKC4vNcnoLCeVzsYYWPD9l&id=100080039216164&ref=embed_post

แป๊ะ บางสนาน
2d
·
เจ้าของวลีที่ผมจำได้เสมอ
“คุณหลักศิลาหรือจอกแหน ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว”
อาจารย์วัฒน์ วัลยางกูร
.....
“ เมื่อข้าตาย
เพื่อนข้ายังอยู่
ลูกข้ายังสู้
หลานข้ายังฝัน
ชีวิตต้องดีกว่า สังคมต้องก้าวหน้า
สันติภาพต้องมีมาเป็นจริง, เป็นจริง ใช่เพียงฝัน”
จาก วัฒน์ วรรลยางกูร
...
เราคิดถึง รำลึกถึง วัฒน์ วรรลยางกูร


ไม่ใช่เรื่องราวการกลับบ้านของ V VIP แต่เป็นเรื่องราวของคนธรรมดา ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต้องเปลี่ยนสถานะจากประชาชน เป็นปีศาจในสายตารัฐ และกลายเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง นี่เป็นเรื่องราวของคุณจรรยา ยิ้มประเสริฐ ‘ไกลบ้านเพราะการเมือง'

https://www.facebook.com/DecodeThaiPBS/posts/728878302728632?ref=embed_post

Decode.plus
March 18
·
ไม่ใช่เรื่องราวการกลับบ้านของ V VIP บทความนี้คือเรื่องราวของคนธรรมดา
ความฝันของประชาชนที่ต้องลี้ภัยทางการเมือง กับ บ้านที่ไม่ได้กลับมา 14 ปี เพราะฝันเดียวกันของผู้ลี้ภัย นักเคลื่อนไหวและผู้ต้องหาคดีทางการเมือง คือการได้กลับไปใช้ชีวิตปกติอย่างที่เคยเป็น
.
ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทุกยุคสมัย มักจบด้วยการที่รัฐผลักให้ใครสักคนที่ลุกขึ้นมาสู้ต้องกลายเป็นปีศาจ
ทำให้ในวันนี้มีใครหลายคน ต้องเปลี่ยนสถานะจากประชาชน กลายเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง
แล้วสำหรับผู้ลี้ภัย ถ้าถึงวันที่ได้กลับบ้านจากการโยกย้ายถิ่นฐานเพราะการเมือง
พวกเขาอยากจะทำอะไรกัน?
สำหรับ ‘จรรยา ยิ้มประเสริฐ’ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ที่ลี้ภัย ณ ประเทศฟินแลนด์นาน 14 ปีมีฝันเล็ก ๆ หลายสิ่งอย่างที่อาจไม่ได้พิเศษหรือหวือหวานัก เป็นเพียงฝันที่อยากทำอะไรที่เคยเป็นสิ่งที่ทำเป็นประจำเมื่ออยู่เมืองไทย แต่รู้ตัวอีกทีกิจวัตรประจำวันเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นความฝันไปเสียแล้ว
“จริง ๆ ตัวเราเองก็ไม่ได้มีความฝันอะไรเป็นชิ้นเป็นอันขนาดนั้น เพราะเอาเข้าจริงก็รู้สึกว่าการกลับไทยก็เป็นเรื่องยากที่ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะได้กลับหรือเปล่า แต่ถ้าถามก็คงตอบว่ามี แต่ไม่ได้พิเศษอะไรขนาดนั้นหรอกนะ(หัวเราะ)”
“เราคิดว่าผู้ลี้ภัยหรือนักโทษทางการเมืองทุกคนก็น่าจะมีฝันคล้าย ๆ กัน คืออยากกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติ”
จรรยา กล่าว
.
ภายใต้ภาพจำของกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ว่ายุคสมัยไหน รัฐได้พยายามสร้างปีศาจขึ้นมาจากผู้เห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นนิยามว่าเป็นนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรง คนล้มเจ้า หรือคนไม่รักบ้านเมือง
แต่ได้โปรดอย่าลืมว่า พวกเขาเหล่านี้คือมนุษย์เฉกเช่นเดียวกับเรา
.
สถานที่บางแห่ง กิจกรรมบางอย่าง และอาหารบางจาน
ชวนอ่านความฝันของจรรยาถ้าวันนี้ได้กลับไทย เรื่องธรรมดาแต่กลายเป็นฝันที่มีความหมายของผู้ลีัภัยที่ต้องไกลบ้านเพราะการเมือง
.
อ่านบทความเต็ม ‘ไกลบ้านเพราะการเมือง 14 ปีของการลี้ภัยและประชาธิปไตยที่ทลายเจ้า-ปืน-ทุนของ ‘จรรยา ยิ้มประเสริฐ’ : (https://decode.plus/20240304-14-years-j#ผู้ลี้ภัยทางการเมือง)
.
Illustrator : ณิชกานต์ บุญไชย
Writer : นทธร เกตุชู
.
.
#Decode #CrackandCraft #ไกลบ้านเพราะการเมือง #มาตรา112 #กลับบ้าน #ผู้ลี้ภัยทางการเมือง


"จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีสำนักนายกฯ เตรียมเดินทางกลับประเทศไทย คลิปคุณจักรภพ เพ็ญแข เล่าขณะอยู่ในรถไปสนามบิน เพื่อกลับบ้านที่เมืองไทย หลังลี้ภัยการเมือง 15​ ปี​ (ยินดีด้วยครับ และขอให้โชคดีครับ)

https://www.facebook.com/watch/?v=276274125565098&t=0

จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair
2h·

คุณจักรภพกลับบ้านในรอบ​ 15​ ปี​ 
.....
สงวน คุ้มรุ่งโรจน์
11h
·
ได้ข่าว"น้องเอก"จักรภพ เพ็ญแข วัย 57 อดีตรัฐมนตรีสำนักนายกฯ ศิษย์เก่าบัวแก้ว นักสู้ประชาธิปไตยในต่างแดน เตรียมเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว
มีกำหนดไป"รายงานตัว"ที่กองปราบปราม พหลโยธิน เช้าพรุ่งนี้ราว 9:00
(สงวน คุ้มรุ่งโรจน์)
.....
Atukkit Sawangsuk
7h·

จักรภพจะกลับมารับใช้เมืองไทย?
เป็นอะไรที่ผิดคาดและไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
2 วันก่อน จักรภพยังโพสต์ชวนทัวร์เสื้อแดงไปยุโรปตะวันออกอยู่เลย
แต่ยังไงก็ถือเป็นปรากฏการณ์ในทางที่ “ดี”


คืออย่างน้อยก็จะเขย่าอะไรอีกหลายอย่าง
จักรภพโดนหลายข้อหารวมทั้ง 112
แต่คดีส่วนใหญ่ยังไม่ขึ้นศาล ยังไม่สิ้นสุด
ยังมีสิทธิได้ประกันตัว สู้คดี
ซึ่งจะท้าทายกระบวนการยุติธรรม
ว่าจะใช้มาตรฐานไหนกับเขา
เช่นเดียวกับจะทำอย่างไร ถ้าผู้ลี้ภัยทั้งหลายกลับบ้าน
จักรภพเท่ากับเป็นด่านหน้าให้คนอื่นก่อน
.....
Jom Petchpradab
·
7h
"ยินดีกับการได้กลับบ้านของคุณจักรภพ เพ็ญแข.."
และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การกลับมาครั้งนี้ คงมาร่วมกันผลักดันให้ อย่างน้อยสุด ผู้ต้องหาทางการเมืองที่อยู่ในคุกทั้งหมด ได้รับการประกันตัว หรือปล่อยตัวเพื่อออกมาสู้คดีตามสิทธิ์
หาไม่แล้ว...ก็จะเป็นอีกคนที่ล้มละลายทางความเชื่อและความศรัทธา รวมถึงอาจถูกตราหน้าว่าตระบัดสัตย์..เพิ่มขึ้นอีกคน
.....
Thanapol Eawsakul
7h
·
ผมยังนึกไม่ออกเลยว่า
จักรภพ เพ็ญแขในฐานะผู้มีคดี 112 และหลบหนีไปกว่า 12 ปี
กลับมาแล้วจะได้ประกันได้อย่างไร
เพราะคนที่โดน 112 ตอนนี้
แทบไม่ได้ประกันเลยแม้จะไม่เคยหลบหนี


ชั่วโมงนี้คนที่วิจารณ์ทักษิณ-เพื่อไทย ได้สนุกที่สุด คือ จตุพร


จตุพร มอง ดีลปีศาจ ทักษิณเบี้ยวพังกันหมด ทั้งขบวน | TODAY

สำนักข่าวทูเดย์

Mar 26, 2024 

จตุพร พรหมพันธุ์ มอง ดีลปีศาจ ใครเบี้ยวพังไม่มีชิ้นดี ดีลคือทักษิณกลับบ้าน เศรษฐาเป็นนายก แต่ไม่ครบเทอม ใกล้หมดเวลาเศรษฐา เตรียมเปลี่ยนตัวนายก ถ้าเบี้ยวภาพกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลตำรวจจะถูกเปิดเผย คดีความต่างๆที่เศรษฐาถูกฟ้องร้องเอาไว้จะเดินหน้า ทุกอย่างจะพัง

https://www.youtube.com/watch?v=GmhacesfcIs
.....

ประเวศ ประภานุกูลกิจ
15h
.
ชั่วโมงนี้คนที่วิจารณ์ทักษิณ-เพื่อไทย ได้สนุกที่สุด คือ จตุพล

ประเทศที่ยอมให้มีการสมรสเพศเดียวกันได้ แต่ไม่ยอมรับให้แสดงตวามเห็นตามความคิด ความเชื่อได้ ประเทศนั้นไม่ไช่ประเทศที่มีความหลากหลาย แค่เป็นประเทศที่ไม่คิดว่ารสนิยมทางเพศเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเท่าเรื่องสถาบันกษัตริย์ เท่านั้นเอง เลิกหลอกตัวเองเถอะ

Thanapol Eawsakul
2h
·
เลิกหลอกตัวเองว่าประเทศไทยยอมรับความหลากหลาย
..............
ประเทศที่ยอมให้มีการสมรสเพศเดียวกันได้
แต่ไม่ยอมรับให้แสดงตวามเห็นตามความคิด ความเชื่อได้
ประเทศนั้นไม่ไช่ประเทศที่มีความหลากหลาย
แค่เป็นประเทศที่ไม่คิดว่ารสนิยมทางเพศเป็นเรื่องคาขาดบาดตายเท่าเรื่องสถาบันกษัตริย์ เท่านั้นเอง



#ชัยธวัช เล่าครั้งแรก เบื้องหลังยุบพรรค #อนาคตใหม่ ที่เชื่อว่ามีการปักธงไว้แต่แรกแล้ว กกต.แนะนำวิธีซิกแซก แต่กรรมการบริหารพรรคอยากให้โปร่งใส ตรงไปตรงมา 🥲 ปล่อยให้สุดๆ ไปเลยค่ะ เหมือนฟังชัยธวัชเลกเชอร์เรื่องประชาธิปไตยให้ กกต ฟัง





'ชัยธวัช' เล่าเบื้องหลังก่อนยุบพรรคอนาคตใหม่ ทำทุกทางไม่ให้ 'ธนาธร' เข้าสภาฯ : Matichon TV

Mar 27, 2024 

'ชัยธวัช ตุลาธน' เล่าเหตุการณ์ก่อนยุบพรรคอนาคตใหม่ มีคนอ้างว่าผู้มีอำนาจจะไม่ยอมให้ 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' เข้าสภาฯ จึงหาเหตุมายุบพรรค พร้อมตั้งคำถามใครเชื่อบ้างว่าการยุบพรรคการเมืองเป็นไปตามกฎหมายทั้งหมด โดยที่ไม่ได้มีธงตั้งต้นมาก่อน

https://www.youtube.com/watch?v=j_tJLIZGEQM


พรรคการเมืองจะสร้างชาติได้อย่างไร ในเมื่อออกแบบกติกาให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ไม่ไว้ใจประชาชน


พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
4h
·

[ พรรคการเมืองจะสร้างชาติได้อย่างไร ในเมื่อออกแบบกติกาให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ไม่ไว้ใจประชาชน ]
.
ระหว่างที่คดียุบพรรคก้าวไกลในฐานความผิด “ล้มล้างการปกครอง” กำลังดำเนินไปตามกระบวนการอย่างต่อเนื่อง วันนี้ (27 มี.ค. 67) ชัยธวัช ตุลาธน - Chaithawat Tulathon หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานเสวนาวิชาการ เรื่อง “พรรคการเมืองสร้างชาติ” ที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีตัวแทนจากภาควิชาการและพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้แก่ ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย นักวิชาการ ร่วมวงเสวนาด้วย
.
ชัยธวัชกล่าวว่า อันดับแรกต้องขอขอบคุณ กกต.ที่ยังให้เกียรติเชิญพรรคการเมืองที่ กกต.เห็นว่ามีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองมาร่วมเสวนาวิชาการในครั้งนี้ โดยคำถามที่ว่า “พรรคการเมืองจะทำให้การเมืองดีได้อย่างไร” ตนต้องย้ำก่อนว่าในระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองเป็นตัวแสดงที่สำคัญมากอย่างน้อยในสองแง่ ประการแรก พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน เป็นช่องทางหนึ่งที่สำคัญมากในการแสดงออกซึ่งอำนาจและเจตจำนงของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ในแง่นี้ การทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอหรือกดทับพรรคการเมืองเอาไว้ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด ๆ เป็นการลดทอนอำนาจและการแสดงออกซึ่งเจตจำนงของประชาชนผ่านระบบการเลือกตั้งไปด้วย
.
ประการที่สอง พรรคการเมืองมีความสำคัญมากในการสร้างชาติและทำให้การเมืองดี ในแง่การเป็นผู้ที่มีบทบาททางตรงในการกำหนดนโยบายสาธารณะและการออกกฎหมาย ปกติเวลาจะกำหนดนโยบายสาธารณะเรามักนึกถึงสถาบันทางวิชาการ สำนักคลังสมองต่าง ๆ รวมถึงนักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญ เรามีการเสวนาทางนโยบายทุกปี แต่เราไม่เคยเห็นพรรคการเมืองหรือการส่งเสริมให้พรรคการเมืองมีบทบาทสำคัญเหล่านี้
.
ในแง่นี้ การพัฒนาการเมืองให้เอื้อต่อการเติบโตและความเข้มแข็งของพรรคการเมือง ก็จะเป็นการพัฒนาตลาดการเมืองไปด้วย กล่าวคือ ถ้าเราทำให้ระบบการเมืองมีความเสรีและเป็นธรรม มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันและยกระดับการนำเสนอนโยบายให้พัฒนาเติบโตไปพร้อมกันด้วย การสร้างกฎกติกาและการออกแบบระบบการเมืองจึงสำคัญต่อการพัฒนาพรรคการเมือง
.
ดังนั้น คำถามที่อาจจะสำคัญกว่า “พรรคการเมืองจะทำให้การเมืองดีได้อย่างไร” คือ “การเมืองที่ดีคืออะไร” หากย้อนกลับไปอ่านบันทึกประชุมการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง หรือรัฐธรรมนูญในมาตราที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ก็จะเห็นวิธีคิดหรืออาจจะรวมถึงอุดมการณ์ทางการเมืองที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการออกแบบกฎกติกาที่มีปัญหา
.
สำหรับชัยธวัชแล้ว “การเมืองที่ดี” ในระบอบประชาธิปไตยต้องวางอยู่บนหลักการพื้นฐานง่าย ๆ คืออำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานได้รับการคุ้มครอง กฎกติกามีความเสรีและเป็นธรรม ยึดหลักนิติรัฐ (rule of law) ไม่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง (rule by law) ถ้าคิดอยู่บนพื้นฐานนี้ระบบจะเอื้อต่อการพัฒนาทางการเมือง และไม่ต้องกลัวว่าประชาชนจะไม่มีวุฒิภาวะหรือเรียนรู้ไม่ได้ เพียงแค่อย่าให้มีคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไปขัดขวางการดำเนินไปข้างหน้าของระบอบประชาธิปไตยก็พอ
.
“การเมืองที่ดีของบ้านเมืองนี้คือการเมืองที่ยุบพรรคกันเป็นปกติ? พรรคการเมืองบางพรรคถูกสั่งว่าหาเสียงแบบนี้ไม่ได้ ออกแบบนโยบายแบบนี้ไม่ได้ และอาจจะอันตรายถึงขั้นถูกยุบพรรคด้วย การออกแบบกฎกติกาที่ยุบยิบไปหมดจนถึงขั้นกำหนดว่าจะมีโครงสร้างการบริหารจัดการอย่างไร จะใช้เงินอย่างไร การเมืองจะดีไม่ได้ถ้าเราออกแบบกฎกติกาด้วยพื้นฐานที่ไม่ไว้ใจประชาชน พยายามควบคุมอำนาจและสถาบันทางการเมืองที่ยึดโยงกับประชาชนให้อยู่ใต้อำนาจที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน เป็นคุณพ่อรู้ดีไปหมดว่าการเมืองที่ดีเป็นอย่างไร นี่เป็นปัญหาใจกลางที่สำคัญมาก”
.
.
[ เชื่อจริง ๆ หรือว่าคดียุบพรรคเป็นเรื่องกฎหมาย 100% ? ]
.
เมื่อผู้ดำเนินรายการสอบถามถึงกรณีการยุบพรรคก้าวไกล ชัยธวัชได้เล่าให้ฟังถึงเบื้องหลังของการยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยระบุว่าในเวลานั้นตนไม่ค่อยตกใจ เพราะเข้าใจดีว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่การยุบพรรค การตัดสิทธิทางการเมือง หรือกระทั่งการต้องโทษจำคุกทางการเมืองถูกทำให้กลายเป็นเรื่องปกติในการเมืองไทย การยุบพรรคอนาคตใหม่มีธงทางการเมืองมาก่อนแล้วว่าจะยุบ เพียงแค่หาเหตุอะไรก็ตามที่จะหาได้ในระหว่างทางเท่านั้นเอง
.
เรื่องที่ตนไม่เคยเล่ากับใครเลย คือหลังการเลือกตั้งปี 2562 ไม่นาน มีคนอ้างว่าเป็นคนของผู้มีอำนาจนำในการเมืองไทย มาบอกกับตนว่าชอบพรรคอนาคตใหม่มาก แต่ถ้าอยากให้พรรคอยู่ต่อต้องทำตามเงื่อนไขบางอย่าง ถ้าไม่ยอมจะมีคนที่ไม่มีแผ่นดินอยู่ จะต้องติดคุกติดตะราง ก่อนเปิดสภาฯ มีการมาบอกว่าอย่างไรก็จะไม่ยอมให้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เข้าสภาฯ ซึ่งตอนนั้นตนยังคิดไม่ออกว่าจะทำได้อย่างไร แต่สุดท้ายก็ทำได้
.
ชัยธวัชเล่าต่อไปถึงกรณีการยุบพรรคอนาคตใหม่ด้วยเรื่องเงินกู้ว่า ด้วยความที่พรรคอนาคตใหม่ในเวลานั้นไม่สามารถระดมทุนได้ทัน ฝ่ายกฎหมายและปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคที่มาอบรมกับ กกต.ในเวลานั้นก็พยายามถามว่าจะระดมทุนจากประชาชนตามแบบที่เราคิดไว้ได้หรือไม่ ปรากฏว่าระเบียบไม่เอื้อ จนมีเจ้าหน้าที่ของ กกต.บางท่านบอกว่าจะทำให้ยุ่งยากทำไม หัวหน้าพรรคมีเงินก็ยัดให้กรรมการนำไปบริจาคก็จบแล้ว
.
เมื่อนำเรื่องนี้ไปคุยกับกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรคบอกว่าเราทำแบบนั้นไม่ได้ เราต้องเอาทุกอย่างมาอยู่บนโต๊ะ ในเมื่อจะเลือกตั้งแล้วแต่ระดมทุนไม่ทันก็ต้องกู้เงิน เพราะเมื่อไปย้อนดูรายงานทางการเงินของหลายพรรคการเมืองที่ผ่านมาก็พบว่ามีการยืมเงินกรรมการบริหารพรรค แต่สุดท้ายการเมืองไทยก็ยึดหลัก “ยิ่งเปิดเผย ยิ่งผิด”
.
“เรากำลังออกแบบกฎกติกาแบบไหนที่ทำให้คนเชื่อว่ายิ่งเปิด ยิ่งวางบนโต๊ะ ยิ่งผิด และให้ทุกคนไปมุดเอา กกต.บางท่านด้วยความปรารถนาดี ด้วยความเคยชินก็บอกให้มุดเอา เราจะอยู่กันแบบนี้จริงหรือ”
.
กรณีการยุบพรรคทั้งอนาคตใหม่มาจนถึงก้าวไกล ตนถามจริงว่ามีใครเชื่อว่าเป็นเรื่องกฎหมายบ้าง คำถามก็คือเราจะอยู่กันแบบนี้ใช่หรือไม่ ถ้าเราอยากจะทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง เราต้องยืนยันว่าพรรคการเมืองต้องเกิดง่าย ดำเนินการง่าย แต่ตายยาก ห้ามยุบพรรคการเมือง แม้จะมีบางประเทศในโลกที่มีบทบัญญัติเรื่องการยุบพรรค แต่ก็ขึ้นอยู่กับภูมิหลังและประสบการณ์ทางการเมืองของแต่ละประเทศ เช่น ตัวแบบที่เรานำมาใช้คือเยอรมนี ซึ่งมีประสบการณ์โศกนาฏกรรมจากพรรคนาซีที่ทำลายระบอบเสรีนิยมประชาธิปไตย ทำร้ายสังคม ทำร้ายประชาชน ละเมิดชีวิตผู้คนอย่างร้ายแรง จึงไม่อนุญาตให้ตั้งพรรคการเมืองแบบนั้นได้
.
แต่การยุบพรรคที่ผ่านมาของประเทศไทยเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ในระบอบประชาธิปไตยคุณค่าและหลักการที่สำคัญที่สุดที่กฎกติกาควรจะมุ่งไปสู่ ก็คือการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การที่เยอรมนีไม่อนุญาตให้มีพรรคแบบนาซีก็เพราะพรรคแบบนี้ละเมิดหลักการขั้นพื้นฐานที่สุดของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการยุบพรรคการเมืองของไทยไม่ได้มีวัตถุประสงค์เช่นนั้น แต่กลายเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานเพื่อรักษาระบอบอะไรบางอย่างที่ผู้มีอำนาจต้องการคงไว้
.
“กลไกการยุบพรรคในประเทศไทยเป็นมรดกของการเมืองแบบเผด็จการอำนาจนิยม เป็นคนละเรื่องกับการยุบพรรคเพื่อปกป้องประชาชนแบบเยอรมัน ประชาชนไม่อยู่ในสมการการยุบพรรคสำหรับสังคมไทย ถ้าเราเชื่อว่าพรรคการเมืองมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประชาธิปไตย ถ้าเราเชื่อว่าในระบอบประชาธิปไตยต้องให้ความสำคัญสูงสุดกับอำนาจของพี่น้องประชาชน พรรคการเมืองและนักการเมืองพัฒนาได้ ปล่อยให้เขาพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องได้แล้ว การยุบพรรคควรจะต้องเลิกได้แล้ว”


คลิปถ่ายทอดสด!! กกต.จัดเสวนาวิชาการ“พรรคการเมืองสร้างชาติ”


🔴 สด!! กกต.จัดเสวนาวิชาการ“พรรคการเมืองสร้างชาติ”

Nation STORY

Streamed live 17 hours ago 

กกต.จัดเสวนาวิชาการ“พรรคการเมืองสร้างชาติ” 

https://www.youtube.com/watch?v=n9v1nAGY7KA